ภาพสไลด์

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

โลกสวย ด้วยมือเรา

ณ วันนี้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธอีกต่อไปว่า โลกกำลังเข้าขั้นวิกฤติ เสมือนโลกกำลังเป็นโรคพุ่มพวงที่ภูมิต้านทานกำลังกัดกินตัวเองอยู่ ไม่มีใครจะสามารถช่วยโลกได้อีกต่อไปถ้ามนุษย์ที่เป็นเจ้าของบ้านไม่ช่วยตัวเองด้วยการหยุด “เผา” หรือเติมเชื้อไฟที่จะทำลายให้ภูมิต้านทานของโลกต่ำลงไปกว่านี้ หลักการง่ายๆ คือใช้ชีวิตที่รู้จัก “พอ” และลงมือสร้างโลกสวยอีกครั้งด้วยมือเราเอง อาจารย์ยักษ์ขอเสนอแนะวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ดังนี้

 1.ปลูกต้นไม้อย่างน้อยคนละต้น 66 ล้านคน อย่างน้อยเราจะได้ต้นไม้ 66 ล้านต้นที่จะเพิ่มออกซิเจนให้แก่โลก ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือนอกเมือง คอนโด หรือบ้านถ้าตั้งใจจะปลูกต้นไม้ก็คงมีวิธีปลูกจนได้ แม้กระทั่งประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีแต่ตึก คนสิงคโปร์ก็เริ่มโครงการปลูกข้าวบนตึกสูงแล้ว 
2.สนับสนุนอาหารไร้สารพิษ เพื่อหยุดการปลูกที่ต้องอาศัยสารเคมีและยาฆ่าแมลง ตัวการทำลายดินและทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษ เมื่อคนหยุดซื้ออาหารที่มีสารพิษ คนผลิตก็จะหยุดผลิตไปเอง
   1.ปลูกต้นไม้อย่างน้อยคนละต้น 66 ล้านคน อย่างน้อยเราจะได้ต้นไม้ 66 ล้านต้นที่จะเพิ่มออกซิเจนให้แก่โลก ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือนอกเมือง คอนโด หรือบ้านถ้าตั้งใจจะปลูกต้นไม้ก็คงมีวิธีปลูกจนได้ แม้กระทั่งประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีแต่ตึก คนสิงคโปร์ก็เริ่มโครงการปลูกข้าวบนตึกสูงแล้ว
 2.สนับสนุนอาหารไร้สารพิษ เพื่อหยุดการปลูกที่ต้องอาศัยสารเคมีและยาฆ่าแมลง ตัวการทำลายดินและทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษ เมื่อคนหยุดซื้ออาหารที่มีสารพิษ คนผลิตก็จะหยุดผลิตไปเอง
3.รู้จักรีไซเคิล “น้ำ” หลายประเทศการใช้น้ำของครัวเรือนถูกกฎหมายเข้ามาควบคุมอย่างเข้มงวด เช่น ประเทศออสเตรเลีย การใช้สายยางฉีดน้ำสะอาดมือหนึ่งรดน้ำต้นไม้หรือล้างรถถือว่า “ผิดกฎหมาย” ในประเทศอังกฤษ ฉี่ 5 ครั้ง จึงจะกดชักโครก 1 ครั้ง ในประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ถือเป็นธรรมเนียม “อาบน้ำ 1 เพลงจบ” เมื่อเข้าห้องน้ำอาบน้ำพอเพลงจบก็ควรต้องออกจากห้องน้ำแล้ว ใครที่อยู่ห้องน้ำใช้น้ำนานเป็นชั่วโมงจะเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของคนอื่น สำนึกในการใช้น้ำอย่างระมัดระวังถือเป็นสำนึกร่วมกันของสมาชิกทุกคน ทางการก็จะเตือน “วิกฤติระดับน้ำ” ให้ประชาชนรู้ทุกวัน ไม่รู้ว่าประเทศไทยคนโชคดีหรือขาดสำนึก การใช้น้ำจึงยังฟุ่มเฟือย เรามักจะเห็นพฤติกรรมที่ปล่อยให้น้ำไหลล้นอ่างลงคูโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร น้ำล้างผัก น้ำล้างจาน น้ำจากการซักผ้า แม้กระทั่งน้ำที่เราอาบควรถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ระบบบ่อพักน้ำที่ใช้แล้ว ควรถูกนำกลับมาเป็นวิถีชีวิตในบ้านอีกครั้งเพื่อลดการใช้น้ำ “มือหนึ่ง” ที่ต้องผ่านการผลิตราคาแพง 
4.กำจัดขยะ ณ จุดเริ่มต้นคือที่บ้าน เพราะการหมักหมมของขยะคือแหล่งที่มาของก๊าซ “มีเทน” ตัวการสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้โลกร้อน แต่มาตรการที่สำคัญที่สุดคือ การลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดด้วยการ “ซื้อแต่พอดี กินแต่พอดี” จำไว้ว่า การผลิตอาหารทุกชนิดใช้ปุ๋ย ใช้ดิน ใช้พลังงาน ใช้น้ำ การใช้ล้นเกิน หรือกินล้นเกิน จึงเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในการผลิตและการกำจัด แต่เมื่อมีขยะ จำเป็นต้องเรียนรู้ตั้งแต่การแยก และการกำจัดเองในบ้าน เพื่อลดการหมักหมมจนเกิดก๊าซมีเทน และลดการขนส่งเพื่อนำไปกำจัดซึ่งต้องสูญเสียพลังงานอีก วิธีการง่ายๆ ของการกำจัดขยะ ณ จุดเริ่มต้นคือ การนำขยะ “สด” กลับมาเป็นปุ๋ยใหม่ด้วยวิธีการหมักแบบชีวภาพ

 เห็นไหมว่า “ความสบาย” ทำให้มนุษย์ลำบาก คงถึงเวลาที่คนยุคเราจะต้อง “ลำบาก” อีกครั้งเพื่อให้ลูกหลานเราได้สบาย เข้าตำรา ถ้าตั้งตนอยู่ในความลำบาก “กุศลธรรม” เจริญ ถ้าตั้งตนอยู่ในความสบาย “อกุศลธรรม” เจริญ
"อาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น